ChatGPT กับการวิเคราะห์ระดับของบทอ่านภาษาอังกฤษตามกรอบ CEFR
รองศาสตราจารย์ ดร.อารีรักษ์ มีแจ้ง แขนงวิชาหลักสูตรและการสอน
สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทนำ
ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา การเรียนการสอนภาษา การนำเครื่องมือ AI คือ ChatGPT มาใช้ในการวิเคราะห์ระดับของบทอ่านภาษาอังกฤษตามกรอบการเรียนการสอนและการวัดผลภาษาของสหภาพยุโรป หรือ CEFR (Common European Framework of Reference for Languages: Learning, Teaching, Assessment) นับเป็น
แนวทางหนึ่งที่ช่วยแบ่งเบาภาระของครูภาษาอังกฤษ ChatGPT สามารถวิเคราะห์องค์ประกอบทางภาษา เช่น คำศัพท์ ไวยากรณ์ และความซับซ้อนของเนื้อหาได้อย่างเป็นระบบ และสามารถแสดงผลได้อย่างรวดเร็วการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อครูภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดของบางประการของ ChatGPT จึงต้องมีการตรวจสอบผลการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาอังกฤษอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้เกิดความมั่นใจได้ว่าบทอ่านมีความเหมาะสมกับระดับของผู้เรียนอย่างแท้จริง
การอ่านในแต่ละระดับของ CEFR
การอ่านเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญตามกรอบ CEFR ที่ใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนและการประเมินความสามารถทางภาษา CEFR แบ่งระดับความสามารถทางภาษาออกเป็น 6 ระดับ ได้แก่ A1, A2, B1, B2, C1, และ C2 ซึ่งแต่ละระดับมีการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถในการอ่านที่แตกต่างกันตามความซับซ้อนของภาษาและลักษณะของบทอ่าน (Council of Europe, 2020) ดังนี้
ระดับพื้นฐาน (Basic User)
A1 ผู้เรียนสามารถอ่านและเข้าใจข้อความ หรือบทอ่านสั้นๆ ง่ายๆ ที่ใช้คำศัพท์ วลี ที่มีความคุ้นเคย
A2 ผู้เรียนสามารถอ่านและเข้าใจข้อความสั้นๆ ง่าย ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่คุ้นเคยในลักษณะที่เป็นรูปธรรม ใช้ภาษาที่พบบ่อยในชีวิตประจำวันหรือเกี่ยวกับการทำงาน และใช้คำศัพท์ที่มีความถี่ในการใช้สูง
ระดับอิสระ (Independent User)
B1 ผู้เรียนสามารถอ่านข้อความที่เป็นข้อเท็จจริง มีเนื้อหาตรงไปตรงมาในหัวข้อที่เกี่ยวกับความสนใจของตนเองได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ
B2 ผู้เรียนสามารถอ่านเนื้อหาได้อย่างอิสระในระดับสูง โดยปรับรูปแบบและความเร็วในการอ่านให้เหมาะสมกับบทอ่านและวัตถุประสงค์ในการอ่าน รวมทั้งสามารถเลือกใช้แหล่งข้อมูลที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคลังคำศัพท์สำหรับการอ่านที่กว้างขวาง แต่ยังอาจมีความยากลำบากในการทำความเข้าใจสำนวนที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก
ระดับเชี่ยวชาญ (Proficient User)
C1 ผู้เรียนสามารถเข้าใจรายละเอียดของบทอ่านที่ยาวและซับซ้อน ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับสาขาวิชาของตนเองหรือไม่ อาจมีการอ่านซ้ำในส่วนที่ยาก สามารถเข้าใจบทอ่านหลากหลายประเภททั้งงานเขียนเชิงวรรณกรรม บทความจากหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร และสิ่งพิมพ์ทางวิชาการหรือวิชาชีพเฉพาะ
C2 ผู้เรียนสามารถเข้าใจข้อความเกือบทุกประเภท รวมถึงงานเขียนเชิงนามธรรมที่มีโครงสร้างซับซ้อน หรือการเขียนที่เป็นภาษาพูดที่มีลักษณะเฉพาะ ทั้งในงานเขียนเชิงวรรณกรรมและไม่ใช่วรรณกรรม สามารถเข้าใจบทอ่านที่ยาวและซับซ้อนหลากหลายประเภท โดยสามารถรับรู้ความแตกต่างของรูปแบบการเขียนและความหมายทั้งที่ระบุอย่างชัดเจนและความหมายโดยนัย
กรอบความสามารถทางภาษานี้จึงเป็นแนวทางในการเลือกบทอ่านที่เหมาะสมกับระดับชั้นของผู้เรียน ดังจะเห็นได้ว่าบทอ่านในหนังสือแบบเรียนที่จัดทำโดยสำนักพิมพ์ต่าง ๆ หรือสถาบันสอนภาษามักจะระบุระดับของ CEFR ไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ครูผู้สอนในการอ่านเลือกบทอ่าน
การวิเคราะห์ระดับของบทอ่านตามเกณฑ์ของ CEFR
การเลือกบทอ่านที่เหมาะสมกับผู้เรียนมีความสำคัญ นักวิชาการหลายท่านได้ให้ข้อเสนอแนะในการเลือกบทอ่านสำหรับผู้เรียนว่า บทอ่านควรมีรูปแบบการเขียนที่หลากหลาย เป็นบทอ่านที่ให้ข้อมูลที่มีคุณภาพและให้แนวคิดที่ลึกซึ้ง มีคำศัพท์ และระดับของความยากง่ายทางภาษาเหมาะสมที่ผู้เรียนจะสามารถเข้าใจได้ และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการสอน (Shanahan, Callison, Carriere, Duke, Pearson, Schatschneider, & Torgesen, 2010) ส่วน Arias (n.d.) เสนอแนะว่าการเลือกบทอ่านควรคำนึงถึง 2 ประเด็นคือ ประเด็นเกี่ยวกับผู้เรียน ได้แก่ ระดับความรู้ ความสามารถทางภาษา ความสนใจ ความต้องการจำเป็น ความรู้เดิมเกี่ยวกับสิ่งที่อ่าน และประเด็นเกี่ยวกับบทอ่าน ได้แก่ ความสัมพันธ์ของเนื้อหากับผู้เรียน ความน่าสนใจของบทอ่าน ความเป็นสื่อสภาพจริง จึงเห็นได้ว่าการเลือกบทอ่านเป็นเรื่องที่มีความละเอียดที่ครูผู้สอนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยประเด็นหนึ่งที่นักวิชาการมีความคิดเห็นสอดคล้องกันในการพิจารณาคือ ระดับความยากง่ายของภาษาที่เหมาะสมกับผู้เรียน เนื่องจากการเลือกบทอ่านที่ไม่เหมาะสมจะทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การสรุปที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับความสามารถของผู้เรียน (Kouame, 2010) การพิจารณาระดับความยากง่ายของบทอ่านเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับครูภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้นับเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดภาระงานของครูได้ ในที่นี้จะนำเสนอตัวอย่างของการนำ AI คือ ChatGPT ซึ่งเป็น AI ที่ครูผู้สอนจำนวนมากคุ้นเคยมาใช้ในการวิเคราะห์ระดับของภาษา ดังนี้
สมมติครูคนหนึ่งต้องการเลือกบทอ่านสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 บทอ่านที่ครูเลือกควรมีความยากง่ายในระดับ A2 เนื่องจากเป็นเป้าหมายของความสามารถทางภาษาที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดสำหรับผู้จบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2557) ครูคนดังกล่าวไปพบบทอ่านนิทานเรื่องหนึ่งที่พิจารณาแล้วว่า บทอ่านประเภทนี้น่าจะเหมาะสมกับวัยสอดคล้องกับความสนใจของผู้เรียน และเนื้อหาเป็นเรื่องที่ผู้เรียนพอมีพื้นความรู้ สิ่งที่ครูจะต้องพิจารณาต่อไปคือ ระดับความยากง่ายของภาษาว่าเหมาะสมกับผู้เรียนหรือไม่ ครูจึงดำเนินการอัฟโหลดบทอ่านแล้วเขียน prompt เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษง่าย ๆ เช่น จงพิจารณาระดับของบทอ่านตามเกณฑ์ CEFR พร้อมทั้งคำอธิบายประกอบ ChatGPT 4.0 จึงทำการวิเคราะห์ระดับของภาษาในบทอ่าน ดังผลที่ได้ต่อไปนี้
ตัวอย่างบทอ่านที่นำมาวิเคราะห์
Three Fish
Three fish lived in a pond. One was named Plan Ahead, another was Think Fast, and the third was named Wait and See. One day they heard a fisherman say that he was going to cast his net in their pond the next day. Plan Ahead said, “I'm swimming down the river tonight!” Think Fast said, “I'm sure I'll come up with a plan.” Wait and See lazily said, “I just can't think about it now!” When the fisherman cast his nets, Plan Ahead was long gone. But Think Fast and Wait and See were caught! Think Fast quickly rolled his belly up and pretended to be dead. “Oh, this fish is no good!” said the fisherman, and threw him safely back into the water. But, Wait and See ended up in the fish market. That is why they say, “In times of danger, when the net is cast, plan ahead or plan to think fast!” |
ที่มา Story Arts (2000).
ผลการวิเคราะห์
เนื้อเรื่อง Three Fish สามารถระบุระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษตามกรอบ CEFR ได้ในระดับ A2 โดยมีเหตุผลประกอบดังนี้:
1. ความยาวของเนื้อหา
เนื้อเรื่องมีความยาวสั้น กระชับ และมีโครงสร้างเรียบง่าย เหมาะสำหรับผู้เรียนระดับ A2 ที่สามารถอ่านและเข้าใจเนื้อหาข้อความสั้น ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ในชีวิตประจำวันหรือเรื่องเล่า
2. คำศัพท์และไวยากรณ์
ใช้คำศัพท์พื้นฐาน (fish, pond, fisherman) และการกระทำในชีวิตประจำวัน (swimming, cast, plan)
โครงสร้างประโยคส่วนใหญ่เป็นประโยคบอกเล่าที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อน (Present Simple และ Past Simple) เช่น
"Plan Ahead said, 'I'm swimming down the river tonight!'"
"Wait and See lazily said, 'I just can't think about it now!'"
3. เนื้อหาสอดคล้องกับชีวิตประจำวัน
เนื้อเรื่องมีบทเรียนเชิงจริยธรรมเกี่ยวกับการเตรียมตัวรับสถานการณ์ล่วงหน้า ซึ่งเป็นหัวข้อที่เหมาะสำหรับผู้เรียนระดับ A2 ที่สามารถเข้าใจเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันหรือสถานการณ์ที่คุ้นเคย
4. การทำความเข้าใจใจความสำคัญ (Main Idea)
ผู้เรียนในระดับ A2 สามารถเข้าใจเนื้อหาของเรื่องราวและบทสรุปที่ว่า "Plan ahead or plan to think fast!" ซึ่งเป็นคติสอนใจอย่างชัดเจนได้ (OpenAI, 2024)
โดยสรุปนิทานเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้เรียนในระดับ A2 เนื่องจากใช้ภาษาไม่ซับซ้อน มีโครงสร้างประโยคพื้นฐาน มีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย นอกจากนี้แล้ว ChatGPT ไม่เพียงแต่ใช้ในการประเมินบทอ่านเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ในการปรับปรุงหรือปรับแก้ข้อความให้เหมาะสมกับระดับความสามารถของผู้เรียนได้อีกด้วย โดยการเขียน prompt คำสั่งให้ปรับระดับของภาษาให้เหมาะสมกับระดับ CEFR ที่เป็นเป้าหมายได้ และสามารถช่วยอธิบายรายละเอียดในด้านการประเมินคำศัพท์และไวยากรณ์มากขึ้น เช่น การอธิบายถึงคำศัพท์ที่อาจเป็นคำยากหรือไม่คุ้นเคย และการอธิบายว่าทำไมคำเหล่านั้นจึงเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมสำหรับผู้เรียนในแต่ละระดับอีกด้วย
ข้อควรพิจารณา
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่า ChatGPT สามารถช่วยการทำงานของครูได้ อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีเกี่ยวกับข้อจำกัดของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากการตีความหรือการเข้าใจบทอ่านบางครั้งอาจมีปัจจัยทางวัฒนธรรมและบริบทที่ AI อาจไม่สามารถพิจารณาได้ควรได้รับการตรวจสอบโดยมนุษย์ ดังนั้นผู้ที่สามารถช่วยตรวจสอบอาจเป็นเพื่อนครูภาษาอังกฤษ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษา หรือเจ้าของภาษา เพื่อยืนยันผลที่ได้ และสร้างความมั่นใจว่าบทอ่านดังกล่าวมีความเหมาะสมสามารถนำไปพัฒนาผู้เรียนได้
บรรณานุกรม
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2557). แนวปฏิบัติตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง
นโยบายการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ: จามจุรีโปรดักส์.
Arias, I. J.(n.d.) Selecting reading materials wisely. https://www.semanticscholar.org/
paper/Selecting-Reading-Materials-Wisely-
Council of Europe. (2020). Common European framework of reference for languages:
Learning, teaching, assessment. Cambridge, U.K: Press Syndicate of the University of
Cambridge. https://rm.coe.int/common-european-framework-of- reference-
for-languages-learning-teaching/168073ff31
Kouame, J. B. (2010). Using readability tests to improve the accuracy of evaluation
documents intended for low-literate participants. Journal of MultiDisciplinary
Evaluation, 6(14), 132–139. https://eric.ed.gov/?id=EJ909613
OpenAI. (2024). ChatGPT (Sept 16 version) [Large language model]. https://chat.openai.com/
Shanahan, T., Callison, K., Carriere, C., Duke, N. K., Pearson, P. D., Schatschneider, C., &
Torgesen, J. (2010). Improving reading comprehension in kindergarten through 3rd
grade: A practice guide (NCEE 2010-4038). Washington, DC: National Center for
Education Evaluation and Regional Assistance, Institute of Education Sciences, U.S.
Department of Education.
Story Arts (2000). Three Fish. http://www.storyarts.org › library › nutshell ›
stories › threefish.html
สามารถดาวน์โหลดไฟล์บทความได้จากลิงก์ด้านล่างนี้